Skip to content

BIO100

  • ไบโอ100.ธุรกิจ
  • รู้จักกับเรา
  • สารชีวภัณฑ์
    • คุณสมบัติเด่น
    • การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์
    • จุลินทรีย์บำบัดน้ำ WWT
  • เจลอุ้มน้ำ
    • หลักการทำงาน
    • คุณสมบัติ
    • วิธีใช้งาน
    • เว็บไซด์ SAP
  • ผลิตภัณฑ์
  • การใช้งาน
  • ข้อมูลเทคนิค
  • ไบโอ100.ธุรกิจ
  • รู้จักกับเรา
  • สารชีวภัณฑ์
    • คุณสมบัติเด่น
    • การใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์
    • จุลินทรีย์บำบัดน้ำ WWT
  • เจลอุ้มน้ำ
    • หลักการทำงาน
    • คุณสมบัติ
    • วิธีใช้งาน
    • เว็บไซด์ SAP
  • ผลิตภัณฑ์
  • การใช้งาน
  • ข้อมูลเทคนิค
  1. Home
  2. / environmental
  3. / ดินเสื่อมโทรม จุลินทรีย์ช่วยได้

ดินเสื่อมโทรม จุลินทรีย์ช่วยได้

adminenvironmentalknowledge

โลกร้อน ผืนดินเสื่อมโทรม

การเพิ่มของประชากร ในอัตรา แบบก้าวกระโดด การใช้ทรัพยากรเกินสมดุล สร้างภาวะโลกร้อน และส่งผลกระทบต่อระบบการเพาะปลูกของโลกเราโดยตรง ด้วยอุณหภูมิที่แปรปรวน ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล ปริมาณน้ำฝนน้อยลง ทำให้แหล่งน้ำตื้นเขิน แม่น้ำหลายสายเหือดแห้งลงจนแทบไม่เหลือสายน้ำไหล

ปกติ น้ำไหลลงจากป่าเขาลำห้วยในที่สูงลงมาสู่ที่ราบลุ่มต่ำ พร้อมกับพัดพาตะกอนดิน เศษวัสดุ กิ่งไม้ใบหญ้าพร้อมธาตุอาหารใหม่ที่ได้จากการเน่าเปื่อยผุผังของอินทรีย์สาร เช่นซากพืชซากสัตว์ ทับถมสะสมอยู่ในดินในป่าบนเขา และนำพาตะกอนมารวมกันและไหลลงมาตามสายทางน้ำ ลงจากในพื้นที่เพาะปลูกเบื้องล่าง น้ำแล้งฝนน้อยทำให้น้ำไม่มี หรือมีน้อย การเติมเต็มหรือแลกเปลี่ยนธาตุอาหารและฟื้นฟูสภาพดินในแต่ละปีก็ลดน้อยลง หรือขาดหายไปโดยสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อน้ำน้อยและดินแห้งแล้ง ต้นไม้ทั้งหมก็จะประสพปัญหาเพิ่มเติม เนื่องจากความชื้นในดินเป็นตัวสำคัญในการช่วยย่อยสลาย และเป็นตัวช่วยทำละลายแร่ธาตุและสารอาหารในดิน เพื่อให้รากพืชนำไปใช้ได้

สรุปโดยรวม เมื่อฝนน้อยน้ำน้อยดินแห้ง พืชก็ตกที่นั่งลำบาก สามารถดูดอาหารจากดิน (ที่ก็มีอาหารน้อยอยู่แล้ว) เพื่อนำไปสร้างการเติบโดได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก หลายครั้งที่พืชเกิดความเครียดและหยุดการเจริญเติบโต หรือเสียหายเสื่อมโทรมถาวร

ไม่ใช่เพียงฝนตกมากน้อย ปริมาณน้ำฝนและความแห้งแล้งเท่านั้นที่มีผลต่อการอยู่รอดของพืช สภาพแวดล้อมอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ แสงแดด ความชื้นสัมพัทธ์ทั้งบนดินหรือในอากาศ หรือแม้แต่ความเป็นกรดด่าง pH valuesในดิน ล้วนมีผลต่อการสังเคราะห์อาหารจากดินของพืชแทบทั้งสิ้น

การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโลกไปสู่ความแห้งแล้ง ตามภาวะกาณ์โลกร้อนนี้ยิ่งนานวัน ยิ่งทวีความรุนแรง และก็เป็นแบบคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง ในระยะช่วงไม่กี่ปีนี้ หลายเหตุการณ์มีระดับความรุนแรง แบบไม่ได้เกิดขึ้นมานานเป็นทศวรรษ หรือเป็นศตวรรษและแต่ละครั้งทำลายสมดุลของธรรมชาติหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

เป็นสัมพันธภาพที่เกื้อหนุนกัน (symbiotic relationship)
บริเวณรากพืชเต็มไปด้วยจุลชีพมากมาย

Mycorrhizae เป็นสัมพันธภาพที่เกื้อหนุนกัน (symbiotic relationship) ระหว่างสิ่งมีชีวิต 3 กลุ่ม 1.รากพืช 2.เชื้อราและ 3.แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ ที่อยู่ในดินบริเวณรากต้นไม้ โดยจุลินทรีย์ในดิน ( mircro-organisms หรือ microbes ) จะเป็นตัวจักรสำคัญ เป็นตัวช่วยเร่งปฎิกิริยา สร้างความร่วมมือกันระหว่าง ให้ทำงานสอดประสานกัน ในสภาพแวดล้อม เป็นตัวช่วยสำคัญในการปรับสภาพสภาวะแวดล้อมที่ขาดสมดุล ของ 2 องค์ประกอบหลักในสภาพแวดล้อม ทั้งที่มีชีวิต BIOTIC และองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต ABIOTIC ให้เอื้อกับการอยู่รอดและเติบโตของพืช เช่น ทำลายเชื้อก่อโรคหรือแมลงศัตรูพืช ช่วยให้พืชสามารถปรับตัวให้ทนสภาวะแห้งแล้ง หรือดินเปรี้ยวดินเค็มได้ดีขึ้น

Biotic หรือองค์ประกอบที่มีชีวิต ประกอบด้วย
  • ต้นพันธ์ หรือตระกูลพืช (species) ที่อยู่บริเวณนั้น
  • กิจกรรมของมนุษย์หรือสัตว์ที่กระทำต่อสภาพแวดล้อม เช่น การเผาไถกลบ หรือการเล็มหญ้าของสัตว์
  • พืชในแต่ละช่วงอายุ
  • พยาธิสภาพหรือสุขภาพของพืช
Abiotic
  • คุณภาพของดิน (ธาตุอาหารในดิน)
  • สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ
  • สภาพดิน ความแห้ง ความชื้น ค่าความเป็นกรดด่าง
  • สารเคมีตกค้าง โลหักหนัก ดินเปรี้ยวดินเค็ม เป็นต้น

จุลินทรีย์ตัวช่วย

หน้าที่หลักของจุลินทรีย์ในดิน (ซึ่งรวมถึงแบคทีเรีย ยีสต์ราในดินตามธรรมชาติ)ทำงานของมันแบบไม่มีวันหยุด เป็นตัวประสานให้ทั้ง 3 กลุ่มผู้เล่นใน Mycorrhizae ทำหน้าที่ได้เข้าขากัน symbiotic และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบในระบบนิเวศในดินบริเวณนั้น มาสร้างเป็นธาตุอาหาร ให้พลังงานพืชเพื่อเติบโต

ตัวจุลินทรีย์จะ metabolize โดยปล่อยเอนไซม์หลายชนิด บางตัวช่วยทำละลายฟอสเฟส (อนุภาคสำคัญของปุ๋ย) สร้างฮอร์โมนพืช ตรึงไนโตรเจน ช่วยพืชดูดซับน้ำ สารอาหาร พัฒนาราก และการแลกเปลี่ยนสารละลาย osmosis ช่วยให้พืชเข้าถึงธาตุอาหารในดิน (และปุ๋ย)ได้ และยังเพิ่มประสิทธิภาพของการนำสารอาหารในดิน(และปุ๋ย)ในบริเวณราก ไปใช้ได้ดีขึ้น ลดการใช้ปุ๋ยโดยรวม ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยผลผลิตได้

ขณะเดียวกันก็เสริมสร้างภูมิต้านทานให้พืชทนต่อเชื้อโรคหรือหนอนพยาธิ ทำลายเชื้อโรคหรือแบคทีเรียก่อโรคและเป็นอันตรายที่ปะปนอยู่ในดิน

และจุลินทรีย์ธรรมชาติในดิน ยังแทบจะเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวที่ทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นกรดด่างขึ้นลง เปลี่ยนแปลงเร็วได้ดีมาก โดยมันมีกลไกปรับตัวเองแบบอัตโนมัติ ไม่เพียงให้สามารถทนอยู่กับสภาพกรดด่างรุนแรง ทั้งยังเป็นตัวปรับสมดุลสภาพแวดล้อมรอบตัวมัน เพื่อให้มันสามารถเจริญเติบโตดี ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผืนดินบริเวณนั้น มีสภาวะกรดด่างสมดุลดีขึ้น พืชพรรณกลับมาเจริญเติบโตได้

การค้นคว้าศึกษาเรื่อง Mycorrhizae เพื่อนำศาสตร์ความรู้นี้มาเป็น

Crop Probiotic ตัวช่วยในการช่วย *ปรับสมดุลของดิน* มีปัญหา ลดความเครียดของพืช โดยเฉพาะการปลูกพืชเชิงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเกษตรเชิงเดี่ยว stress & nutrient imbalance

มีการส่งเสริมงานวิจัยจากหลายสถาบัน เพื่อจะส่งเสริมการพัฒนาจุลินทรีย์สายพันธ์ที่ดีเป็น Active Constituents ที่สามารถส่งเสริม สภาวะ Mycorrhizae ทำให้รากพืชใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพิงปุ๋ยเคมีอันตราย รวมถึงยากำจัดศัตรูพืช ประหยัดต้นทุนการเพาะปลูก และเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบนิเวศน์

ปัจจุบันมี ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ Microbial Biostimulantในท้องตลาด มากมายหลายยี่ห้อ หลายชนิดก็เป็น จุลินทรีย์จากธรรมชาติ ที่พร้อมให้นำมาเลือกใช้เพื่อปรับปรุงสภาพดินได้แบบด่วน

ประเทศไทยร่ำรวยทรัพยากรพันธุกรรมทั้งพืชและจุลินทรีย์ที่รอให้นำมาใช้ หรือแบคทีเรียที่ดูดไนโตรเจนจากอากาศมาเป็นปุ๋ยอ้อยได้โดยไม่ต้องซื้อ ความรู้วิชาการเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของเรา จึงสำคัญยิ่งในการปรับระบบการเพาะปลูกของประเทศในยุคโลกร้อน

ที่สำคัญ การที่เราใช้ปุ๋ยน้อยลง (รวมทั้งยากำจัดศัตรูพืช ยังช่วยลดปัญหาสารพิษตกค้างในอาหาร Food Foxicity ลดปัญหาการรับสารพิษของเกษตรกรขณะทำงาน Working Hazard และยังลดปัญหาดินเสื่อมโทรม ดินเค็ม ระยะยาว // เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่ต้องรับพิษภัยจากมลพิษ เคมีแปลกปลอม ก็จะสามารถฟื้นฟูตัวเองในระยะยาว

ที่มาของข้อมูล
https://www.teriin.org
https://www.frontiersin.org


ติดตาม GreenTips ได้ทุกช่องทาง
Website: greentips.net
Facebook: Bio100Percent
Line: @BIO100
IG: instagram.com/bio100plus

bio100basicgreentipsจุลินทรีย์ปุ๋ยชีวภาพโปรไบโอติกส์

Post navigation

Previousมนุษย์(คง)ต้องหาโลกใบใหม่
Next พลังงาน(ลม)แห่งอนาคต

ผลิตภัณฑ์ของเรา

  • สารชีวภัณฑ์
  • เจลอุ้มน้ำ
  • บทความผลิตภัณฑ์

โพสต์ล่าสุด

  • เอลนีโญ (El Niño) สร้างสถิติปีแห่งความแห้งแล้ง
  • ดื่มกาแฟแบบเป็นมิตรกับโลก
  • ปัญหาโลกแตก Plastic หรือ Paper
  • ปลูกกาแฟใต้ร่มเงา(ต้นไม้ใหญ่)ในป่า
  • การปลูกกาแฟแบบดั้งเดิมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

#แท็ก (TAG)

1000pruksa bio100aqua bio100basic bio100h2o bio100plus bio100wwt bx-1 FOG greentips hydrogel wdp กาแฟป่า กำจัดกลิ่น กำจัดไขมัน จุลินทรีย์ ต้นยางพารา น้ำหมัก น้ำเสีย บำบัดน้ำเสีย ประหยัดน้ำ ปลูกป่า ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยหมัก พลังงานสะอาด พลังสะอาด มลพิษ มลภาวะ รีไซเคิล ลดมลภาวะ วิธีใช้ สวนสมดุลย์ สัตว์น้ำ สารอุ้มน้ำ สิ่งแวดล้อม อินทผาลัม เจลอุ้มน้ำ เลี้ยงกุ้ง โปรไบโอติกส์ โพลิเมอร์อุ้มน้ํา โพลีเมอร์ โลกร้อน

© Copyright 2021 BIO100 สงวนสิทธิ์ทุกประการ

Proudly powered by WordPress | Theme: Fox009 Wisdom by Fox009.